ข่าวสารอัพเดท

10 บทเรียนจากผู้ประกอบการ “ตัวพ่อ”

เอ่ยชื่อ “นีล พาเทล” (Neil Patel) คนไทยอาจไม่คุ้นหู แต่หากลองเสิร์ชชื่อของเขาดูใน Google จะพบว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา นอกจากจะเป็นผู้ประกอบการชาวซีแอตเติล นักลงทุนแบบ Angel และผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์แล้ว เขายังมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักที่สุดสำหรับผลงานในด้านการตลาดแบบดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทวิเคราะห์อย่าง KISSmetrics และ Crazy Egg แต่กว่าจะมาถึงวันนี้…เขาเองก็ต้องผ่านความล้มเหลวมาไม่น้อยเช่นกัน เมื่อนีลเขียนบทความสรุปบทเรียนเกี่ยวกับการทำธุรกิจของเขา จึงเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจไม่น้อย


บทเรียนที่ 1 – ทุ่มเททำคะแนนให้สุดกำลัง!!

ในการเริ่มต้นธุรกิจใหม่แบบ Startup ผู้ประกอบการต้องใช้ความพยายามมากที่สุดในการสร้างบริษัทขนาดเล็ก เช่นเดียวการสร้างบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งนีลได้เปรียบกับการเล่นเบสบอล ที่คุณต้องหวดลูกให้สุดแรงเพื่อตีโฮมรันให้ได้

คำถามแรกที่ผู้ประกอบการต้องถามตัวเอง คือ คุณเป็นผู้เล่นในตำแหน่งตัวตีลูกที่มักจะตีลูกทำคะแนนสำคัญๆ ให้กับทีมอย่าง “slugger” หรือไม่ นั่นคือ คุณยอมอดทนทุ่มเทและยอมเสี่ยงเพื่อแลกกับความสำเร็จมากแค่ไหน เพราะพนักงานทั่วไปที่ลูกจ้างมักจะเป็นแค่นักตีลูกธรรมดา แต่ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาตัวเองเพื่อเป็น slugger ในเกมธุรกิจได้ โดย นีลบอกว่า ในการทำธุรกิจครั้งแรกของเขา หากพันธมิตรทางธุรกิจและตัวเขาใช้พลังงานทั้งหมดไปในการทุ่มเทพยายามเพื่อที่จะได้รับผลตอบแทนขนาดใหญ่ แทนการสร้างธุรกิจแบบสบายๆ พวกเขาทั้งสองน่าจะทำเงินได้มากขึ้นกว่าที่มีในปัจจุบัน


บทเรียน ที่ 2 - สร้าง ผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่าย

นีลบอกว่าผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดคือ ผลิตภัณฑ์ที่มีความเรียบง่าย ตัวอย่างเช่น iPad และบริการอื่นๆ เช่น Google และ Amazon ที่ทุกคนสามารถใช้งานได้ง่าย น่าเสียดายที่เขาเข้าสู่โลกธุรกิจด้วยแนวคิดว่า ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดจะต้องซับซ้อน ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดพลาด จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการทำสินค้าที่ซับซ้อน แต่รักษาความเรียบง่ายในการใช้งานไว้


บทเรียนที่ 3 – ทำสินค้าที่ช่วย “แก้ปัญหา”

บริการตรวจวัดผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ว่าตำแหน่งไหนมีคนคลิกมากที่สุด เพื่อจะได้รู้พฤติกรรมของผู้บริโภคอย่าง Crazy Egg นับเป็นธุรกิจแรกที่ประสบความสำเร็จของนีล เพราะเขาและหุ้นส่วนเริ่มต้นด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้า ทำให้การขายสินค้าเป็นเรื่องง่ายขึ้น เขายังได้ยกตัวอย่าง Facebook ที่ช่วยให้ผู้คนสามารถติดต่อกับเพื่อนเก่าที่ห่างหายไป หากคุณสามารถให้สิ่งที่แก้ปัญหาได้ ผู้บริโภคจะรักและชื่นชอบสินค้าของคุณ


บทเรียนที่ 4-รู้ขีดระดับราคาของตลาด

“ราคา” สินค้าเป็นสิ่งสำคัญมากที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภค นีลบอกว่างานแรกจริงๆ ในชีวิตของเขาคือ การขายเครื่องดูดฝุ่นแบบเคาะประตูถึงบ้าน ซึ่งสินค้าเหล่านี้มีราคาแพงมากทำให้ยากที่จะปิดการขายได้สำเร็จ มีเพียงครอบครัวเดียวที่ซื้อเครื่องดูดฝุ่น ก่อนจะนำกลับมาคืนในวันรุ่งขึ้น เพราะพวกเขารู้สึกผิด นีลได้เรียนรู้อย่างรวดเร็วว่า เขาต้องการที่ จะอยู่ในธุรกิจที่ขายในสิ่งที่ผู้คนสามารถซื้อได้ ถ้าคุณคิดจะขายสินค้าระดับไฮเอนด์ และหวังว่าจะดึงดูดลูกค้ามาซื้อแน่นอนนั้นไม่เป็นความจริงเสมอไป ผู้ประกอบการจะต้องรู้จักตลาดและช่วงราคาที่เหมาะกับมูลค่าสินค้าของตัวเองก่อน


บทเรียนที่ 5-เรียนรู่การทำโฆษณา

นีลบอกว่า ถ้าต้องการที่จะสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ คุณไม่สามารถพึ่งพาแค่การบอกต่อแบบปากต่อปาก หรือ word of mouth คุณต้องเข้าใจตลาดและการเรียนรู้วิธีที่จะดึงดูดสายตาลูกค้าไปยังเว็บไซต์ของคุณ เขายกตัวอย่างที่ผิดพลาดในสร้างเว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อและค้นหางานที่เรียกว่า “Advice Monkey” เขาได้ทุ่มเทพลังงานและเงินกว่า 10,000 ดอลลาร์ฯ ในการเปิดตัวโดยจ้างบริษัทอินเทอร์เน็ตถึงสามแห่งช่วยทำโฆษณา แต่ไม่ได้รับผลการตอบรับที่คุ้มค่า ทำให้เขาตัดสินใจที่เรียนรู้วิธีการทำตลาดบนอินเทอร์เน็ตด้วยตัวเอง


บทเรียนที่ 6-การชำระเงินควรเป็นเรื่องง่าย

การทำให้การจ่ายเงินของผู้บริโภคเป็นเรื่องง่าย คือหนึ่งปัจจัยที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ ระบบ PayPal ที่ช่วยให้ธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดเล็กได้รับเงินทันที ไม่ว่าลูกค้าของพวกเขาจะอยู่ที่ไหนในโลก ผู้ประกอบการต้องแน่ใจว่า ไม่ได้มีอุปสรรคใดๆ ในการชำระเงินของลูกค้า เช่น ต้องกรอกฟอร์มที่มากเกินไปใน กระบวนการตรวจสอบการจ่ายเงิน เป็นต้น


บทเรียนที่ 7 – งานฟรี สามารถนำไปสู่ การทำงานที่มีกำไร

แน่นอนว่า “กำไร” คือสิ่งที่เจ้าของธุรกิจทุกคนต้องการ แต่นีลบอกว่า บางครั้งการยอมทำงานโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนบางอย่าง ก็สามารถนำไปสู่ผลกำไรในอนาคตได้เช่นกัน เขายกตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณกำลังทำ SEO สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก ที่มีการทำสัญญากับบริษัทหรือองค์กรขนาดใหญ่ ลองยื่นข้อเสนอให้บริษัทขนาดเล็กว่าจะทำ SEO ให้ฟรีๆ แลกกับการแนะนำคุณกับคนที่เหมาะสมในบริษัทขนาดใหญ่นั้น วิธีนั้นจะช่วยสร้างคอนเน็กชั่นและสร้างรายได้ในระยะยาวในอนาคตที่มากกว่าค่าตอบแทนที่ได้จากงานนี้


บทเรียนที่ 8-กำจัดทุกอย่าง ยกเว้นเฉพาะสิ่งที่จำเป็น

กฎทองในการทำธุรกิจของนีลคือ "ค้นหาสิ่งที่อยู่ในธุรกิจของคุณที่ทำให้คุณเงินมากที่สุด และมุ่งเน้นไปที่สินค้าเหล่านั้น กำจัดสิ่งอื่นทุกอย่างที่ไม่มีกำไร” ในช่วงต้นในการทำธุรกิจของนีล เขาพยายามที่จะทำทุกอย่าง แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จสักอย่าง ข้อดีของการโฟกัสธุรกิจเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งคือ ได้รับฟังลูกค้าอย่างใกล้ชิด เพื่อสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า และทำให้สินค้าเหล่านั้นดีที่สุดในหมวดหมู่สินค้าที่มีทั้งหมด


บทเรียนที่ 9-จ้างพนักงานอย่างระมัดระวัง

ในการเริ่มต้นทำธุรกิจส่วนใหญ่ เจ้าของธุรกิจมักจะจ้างคนทำงานใกล้ชิด อาทิ เพื่อน ครอบครัว หรือจากคำแนะนำส่วนบุคคล ครั้งแรกนีลเองก็เริ่มต้นจากการที่ทำผิดพลาดนี้มาก่อน เขาแนะนำว่า เจ้าของธุรกิจมือใหม่ควรพัฒนากระบวนการจ้างงานอย่างเป็นมืออาชีพ นอกจากนั้น ควรพิจารณามากกว่าแค่ความสามารถ เพราะพนักงานมืออาชีพที่มีความสามารถบางคนก็ไม่อาจปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมในบริษัทของคุณ วิธีที่ดีคือ เปิดโอกาสให้พนักงานคนอื่นๆ ร่วมสัมภาษณ์ผู้สมัครที่มีศักยภาพด้วย เพื่อช่วยประเมินอีกทางหนึ่ง


บทเรียนที่ 10- จง “อดทน”

สิ่งสำคัญในการทำธุรกิจครั้งแรก ผู้ประกอบการจะต้องเรียนรู้ที่จะอดทน อย่าคาดหวังว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน เพราะความสำเร็จที่หวังไว้ไม่ได้มาถึงง่ายๆ ตราบใดที่ยังอดทนต่อไป สักวันย่อมเป็นวันของคุณ

บทเรียนเบื้องต้นทั้ง 10 นี้ข้อนี้...น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจได้ดีเลยทีเดียว

Create by smethailandclub.com : แหล่งรวมข้อมูล เพื่อผู้ประกอบการ SME
http://www.smethailandclub.com/knowledges-view.php?id=842
2016-02-16